เมนู

วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์


อัพยากตวรรคที่ 1


1. อัพยากตสูตร


[51] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ
เป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ความสงสัยในวัตถุที่พระองค์ไม่ทรง
พยากรณ์ ไม่เกิดขึ้นแก่อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เพราะทิฏฐิดับ
ความสงสัยในวัตถุที่เราไม่พยากรณ์ จึงไม่เกิดขึ้นแก่อริยสาวก
ผู้ได้สดับแล้ว ดูก่อนภิกษุ ทิฏฐินี้ว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้ว
ย่อมเป็นอีก สัตว์เป็นหน้าแต่ตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก สัตว์เบื้องหน้า
แต่ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็มี ย่อมไม่เป็นอีกก็มี สัตว์เบื้องหน้าแต่ตาย
แล้ว ย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้ ดูก่อนภิกษุ
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมไม่รู้ชัดทิฏฐิ ความดับทิฏฐิปฏิปทาเครื่อง
ให้ถึงความดับทิฏฐิ ทิฏฐินั้นเจริญแก่ปุถุชนนั้น เขาย่อมไม่พ้นไป
จากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ย่อมทุกข์ โทมนัสและอุปายาส
เรากล่าวว่า ไม่พ้นไปจากทุกข์ ส่วนอริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ย่อม
รู้ชัดทิฏฐิ เหตุเกิดทิฏฐิ ความดับทิฏฐิ ปฏิปทาเครื่องให้ถึงความดับ
ทิฏฐิ ทิฏฐิของอริยสาวกนั้นย่อมดับ อริยสาวกนั้นย่อมพ้นจากชาติ

ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เรากล่าวว่า
ย่อมพ้นไปจากทุกข์ ดูก่อนภิกษุอริยสาวกได้สดับ รู้เห็นอยู่อย่างนี้
ย่อมไม่พยากรณ์ว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีก ... สัตว์
เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้
ดูก่อนภิกษุ อริยสาวกผู้ได้สดับ รู้เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเป็นผู้ไม่
พยากรณ์ในวัตถุที่เราไม่พยากรณ์เป็นธรรมดาอย่างนี้ อริยสาวก
ผู้ได้สดับ รู้เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่พรั่น ไม่หวั่น ไม่ไหว ไม่ถึงความ
สะดุ้งในวัตถุที่เราไม่พยากรณ์.
ดูก่อนภิกษุ ความทะยานอยาก ความหมายรู้ ความสำคัญ
ความซึมซาบ ความถือมั่นว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีก...
สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีก
ก็หามิได้ นี้เป็นความเดือดร้อน ดูก่อนภิกษุ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ
ย่อมไม่รู้ชัดความเดือดร้อน เหตุเกิดความเดือดร้อน ความดับ
ความเดือดร้อน ปฏิปทาเครื่องให้ถึงความดับ ความเดือดร้อน
ความเดือดร้อนย่อมเจริญแก่เขา เขาย่อมไม่พ้นไปจากชาติ ชรา
มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เรากล่าวว่า ย่อม
ไม่พ้นไปจากทุกข์ ส่วนอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมรู้ชัดความเดือดร้อน
เหตุเกิดความเดือดร้อน ความดับความเดือดร้อน ปฏิปทาเครื่อง
ให้ถึงความดับความเดือดร้อน ความเดือดร้อนของอริยสาวกนั้น
ย่อมดับ ฯลฯ อริยสาวกผู้ได้สดับ รู้เห็นอยู่อย่างนี้แล ย่อมไม่พรั่น
ไม่หวั่น ไม่ไหว ไม่ถึงความสะดุ้งในวัตถุที่เราไม่พยากรณ์ ดูก่อน

ภิกษุนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ถึงความสงสัยในวัตถุที่เรา
ไม่พยากรณ์ ไม่เกิดขึ้นแก่อริยสาวกผู้ได้สดับ.
จบ อัพยากตสูตรที่ 1

อัพยากตวรรคที่ 1


อรรถกถาอัพยากตสูตรที่ 1


วรรคที่ 6

สูตรที่ 1 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อพฺยากตวคฺถูสุ ความว่า ในวัตถุที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
มิได้ตรัส โดยพยากรณ์มีเอกังสพยากรณ์เป็นต้น. บทว่า สตฺโต
ได้แก่ ตถาคต. บทว่า ทิฏฺฐฺคตเมตํ นี้ เป็นเพียงมิจฉาทิฏฐิ. ชื่อว่า
สัตว์ผู้ไม่ถูกทิฏฐินั้นยึดไว้ ย่อมไม่มี. บทว่า ปฏิปทํ ได้แก่ อริยมรรค.
บทว่า น ฉมฺภติ ความว่า ย่อมไม่หวั่นไหวด้วยอำนาจทิฏฐิ. แม้ใน
บทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน. บทว่า ตณฺหาคตํ ความว่า ตัณหาอัน
สัมปยุตด้วยทิฏฐิ. แม้ในบทมีอาทิว่า สญฺญาคตํ ก็นัยนี้เหมือนกัน.
ด้วยว่าบรรดาบทเหล่านั้น สัญญาที่สัมปยุตด้วยทิฏฐินั่นแหละ พึง
ทราบว่า สัญญาคตะ ความหมายรู้ มานะที่อิงอาศัยทิฏฐินั้นนั่นแหละ
หรือความสำคัญหมายรู้ที่อิงอาศัยทิฏฐินั่นแหละ พึงทราบว่า มัญญิตะ
ความสำคัญหมายรู้ ธรรมเป็นเหตุให้เนิ่นช้า ซึ่งอิงอาศัยทิฏฐิ